หนังน่าดู ปี 2021 รวม 9 หนังที่น่าจะเข้าโรงให้ชมในปีนี้แบบมันๆ

หนังน่าดู Evangelion 3.0+1.0: Thrice On A Time

หนังน่าดู ผลพวงจากไวรัส COVID-19 ทำให้ภาพยนตร์อนิเมชั่นในประเทศญี่ปุ่นหลายเรื่องขยับเวลาการฉายมายังปี ค.ศ.2021 กันแทน ไม่ว่าจะเป็น Quite Guardian Sailor Moon Eternal, Detective Conan: The Scarlet Bullet รวมถึงภาพยนตร์อนิเมะ Evangelion three.0+one.0: Thrice On A Time ด้วย

ขอทบทวนกันอีกครั้งว่า ภายพนตร์ Evangelion three.0+1.0 ถือว่าเป็นภาคที่ 4 ของภาพยนตร์ชุด Rebuild Of Evangelion ที่แรกเริ่มเนียนว่าจะเป็นการรีเมคซีรีส์ Evangelion ก่อนที่จะเผยตัวว่าเป็นเรื่องราวใหม่ ประดุจว่าเป็นอีกชาติภพหนึ่งที่แตกต่างจากเดิม ด้วยความที่อายุของทีมนักพากย์และทีมผู้สร้างที่หลายท่านเกินหลัก 60 ปีแล้ว รวมถึงความตั้งใจของคุณอันโนะ ฮิเดอากิ (Anno Hideaki) ผู้สร้างและผู้กำกับของ Evangelion ภาคดั้งเดิมต้องการให้ภาคนี้เป็นการปิดท้ายการเดินทางของ

และด้วยการเว้นวรรคการฉายระหว่างภาคไปราว eight ปี จึงเชื่อว่าภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้จะทำให้แฟนภาพยนตร์หลายคนพร้อมใจตีตั๋วเข้าโรงกันอย่างแน่นอน โดยภาพยนตร์จะเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2021 ส่วนประเทศอื่นอาจจะต้องรอกันอีกระยะหนึ่งนะ







หนังน่าดู  Speedy And Furious nine

เราไม่ปฏิเสธว่าภาพยนตร์ในแฟรนไชส์แรงเร็วทะลุนรก ไม่ได้มีดราม่าซับซ้อนจนเห็นใจทุกตัวละคร ไม่ได้มีบทที่ชวนให้คิดตามหลังดูจบ แต่ถามว่าเราเพลินกับหนังที่ได้เห็นรถยนต์หลากแบบมาดวลกันบนถนนที่ไม่มีกฎฟิสิกส์ปกติทำงาน แล้วก็ลุ้นว่าเมื่อไหร่ตัวละครในเรื่องเขาจะขับรถบินไปถึงอวกาศสักที ขนาดที่ผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ยังชื่นชอมความเล่นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ของหนังชุดนี้

เอาเป็นว่า Quick And Furious 9 กลุ่มตัวละครของ ดอมินิก ‘ดอม’ โทเร็ตโต้ จะต้องปะทะกับศัตรูเก่าอย่างไซเฟอร์ ที่ร่วมมือกับ เจคอบ โทเร็ตโต้ รับบทโดย จอห์น ซีนา (John Cena) น้องชายของดอมที่เป็นนักฆ่า ผู้มีความแค้นส่วนตัวกับพี่ชาย แต่ฝั่ง ดอมก็จะได้ ฮาน หลิว เพื่อนเก่าที่เชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้วมาสมทบ?

ตัวหนังถ่ายทำฉากส่วนหนึ่งในประเทศไทยด้วย และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ภาพยนตร์ Quick And Furious 9 จะเข้าฉายในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ.2021 นี้

หนังน่าดู Shang-Chi Along with the Legend On the Ten Rings

ด้วยความที่ภาพยนตร์ในฝั่ง Marvel Cinematic Universe ถูกเลื่อนฉายจากปี ค.ศ.2020 มาทั้ง ทำให้ปีนี้มีทั้งภาพยนตร์ฝั่ง MCU รอฉายอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Black Widow / Eternals / Spider-Gentleman ภาคใหม่ และยังมีซีรีส์อีกหลายเรื่องด้วย แต่ที่เราหยิบยกเอา Shang-Chi มาขึ้นเป็นภาพใหญ่ เพราะภาพยนตร์นี้มีประเด็นที่อาจจะทำให้ MCU ใหญ่โตขึ้นได้อีก หรือเหงาหงอยลงไปเลย

เหตุผลแรกก็คือ ถึงตัวละครหลายตัวในภาพยนตร์ภาคนี้จะเพิ่งปรากฏตัวครั้งแรก แต่ The Mandarin และ กลุ่ม Ten Rings เคยโดนพูดถึงมาก่อนแล้วในภาพยนตร์ Iron Man one-two-three และมีการทิ้งทวนไว้ในภาพยนตร์สั้นของ Marvel ว่า The Mandarin ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มไม่พอใจการปรากฏตัวของตัวปลอมใน Iron Guy 3 ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือได้วาเป็นการถมช่องว่างที่ทิ้งไว้กว่าสิบปีเลยทีเดียว

เหตุผลที่สองก็คือ นี่ถือว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ MCU ใช้ธีมเกี่ยวข้องกับคนเอเชียจริงจัง ทั้งการใช้ทีมนักแสดงเป็นคนเชื้อสายเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครนำอย่าง ซือมู่ หลิว (Simu Liu) ที่โดดเด่นมาจากซีรีส์ Kim’s Comfort กับ Awkwafina ที่คว้ารางวัลจากภาพยนตร์ The Farewell ในช่วงปี ค.ศ.2020 ที่ผ่านมา ส่วนตัวละครร้ายที่โดดเด่น The Mandarin ก็ได้ Tony Leung หรือที่คนไทยคุ้นเคยในชื่อ เหลียง เฉาเหว่ย (Liáng Cháowěi) มารับบท

ด้วยปมที่ถูกทิ้งไว้นาน กับการเปิดรับเรื่องราวเหนือธรรมชาติมากขึ้น (จากเดิมที่ช่วงแรกพยายามตีความว่า เวทมนตร์คือวิทยาศาสตร์ แบบหนึ่งในดาวดวงอื่น) และการรุกตีตลาดเอเชียเพิ่มเติม จะได้ผลเหมือนเมื่อครั้งที่ MCU ทำได้กับ Black Panther หรือไม่

Cherry

เรารู้จัก ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) ในฐานะนักแสดงตั้งแต่วัยเด็กชาย จนกลายมาเป็นนักแสดงหนุ่ม แต่บทบาทที่ผู้คุ้นเคยก็จะเป็นการรับบทเป็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ของภาพยนตร์ Spider-Man จนกระทั่งในช่วงปี ค.ศ.2020 ที่ผ่านมาที่นักแสดงคนนี้เริ่มไปปล่อยพลังการแสดงในภาพยนตร์ The Satan Constantly

หลายท่านก็ทราบแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้มีศักยภาพมากกว่าบทที่คุ้นเคยกันในหน้าจอ

และปี ค.ศ.2021 นี้ ทอม ฮอลแลนด์ ก็มีภาพยนตร์ที่น่าสนใจอย่างเรื่อง Cherry ที่เกี่ยวกับ ทหารเสนารักษ์คนหนึ่งที่มีอาการ PTSD หลังจากไปรบในสงครามอิรัก ทำให้เขากลายเป็นคนติดยา

จนนำพาไปสู่การปล้นธนาคาร ตัวนิยายนั้นเป็นการอ้างอิงชีวิตของตัว นิโก้ วอลค์เกอร์ (Nico Walker) ผู้เขียนเองซึ่งต้องโทษอยู่ ณ เวลาที่เขียนนิยาย

ตัวภาพยนตร์ได้ โจ กับ แอนโธนี รุสโซ (Joe & Anthony Russo) ที่เคยมากำกับภาพยนตร์ในฝั่ง MCU หลายเรื่อง มากำกับงานแนวดราม่าจริงจัง แต่ยังคงไว้ลายด้วยการถ่ายทำ Cherry เป็นหลายบทหลายสไตล์ ทั้งในแบบ Magical Reaslism (หนังแนวมีพลังเวทเหนือจริงแต่อยู่บนพื้นเพความเป็นจริง), เหนือจริง, เหี้ยมโหดแบบสมจริง, สยองขวัญ และตลกร้าย ซึ่งตัว ทอม ฮอลแลนด์ ก็จะปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามลักษณะการถ่ายทำด้วย

ตัวภาพยนตร์มีกำหนดฉายผ่านบริการของ Apple Television+ แต่จะมีการนำเอาภาพยนตร์มาฉายในโรงภาพยนตร์สหรัฐอเมริกาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.2021 เพื่อให้มีสิทธิ์เข้าชิงรางวัลต่างๆ ซึ่งสื่อหลายเจ้าคาดเดาว่า ทอม ฮอลแลนด์ อาจจะโดดเด่นในเวทีรางวัลจากหนังเรื่องนี้ ส่วนชาวไทยอาจจะต้องลุ้นกันว่าจะมีคนยอมให้นำหนังมาเข้าฉายในโรงจอใหญ่เหมือนกับฝั่งอเมริกาด้วยหรือเปล่า

The Legend of Hei

ภาพยนตร์อนิเมชั่นจากประเทศจีนที่เข้าฉายมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2019 และเปิดตัวในบ้านเกิดด้วยก้าวย่างที่มั่นคง ก่อนจะทำกระแสในประเทศญี่ปุ่นได้ดีพอสมควรในช่วงปี ค.ศ.2020 ด้วยการเปิดตัวเป็นอันดับ 8 ของ Box Business ในญี่ปุ่น ก่อนจะไต่อันดับสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ต่อมา และภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวก็มีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยในช่วงปี ค.ศ.2021

ที่มาที่ไปของการ์ตูนเรื่องนี้ มาจากการที่ MTJJ หรือ Zhang Ping (จาง ผิง) สร้างอนิเมชั่นบนโปรแกรม Flash ที่ชื่อ The Legend of Luo Xiaohei ออกให้ชมออนไลน์ตั้งแต่ปี ค.ศ.2011 ตัวอนิเมชั่นชุดดังกล่าวได้รับความนิยมจากชาวเน็ตในจีนอยู่ไม่น้อย ทำให้จาง

ผิงเริ่มพัฒนางานของตัวเองมาเป็นภาพยนตร์จอเงิน ตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 โดยให้เรื่องราวเป็นภาคต้นของเนื้อเรื่องอนิเมชั่นที่เขาจัดทำไปแล้ว

เรื่องราวในภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของโลกที่มีภูตอาศัยอยู่ แต่การพัฒนาเมืองของมนุษย์ทำให้ภูตมีที่อาศัยลดลง ‘เสี่ยวเฮย’ ภูตแมวตัวน้อยที่ต้องออกจากป่าที่อยู่ของตนเอง แล้วไปอาศัยอยู่กับภูตอีกกลุ่มหนึ่ง แต่สุดท้ายกลับภูตแมวได้ถูก ‘อู๋เซียน’ ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุด จับตัวไว้ แล้วร่วมเดินทางไปทำความเข้าใจว่า ภูต กับ มนุษย์ สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้หรือไม่

ตัวภาพยนตร์อนิเมชั่นมาพร้อมทั้งภาพที่สวยงาม พล็อตเรื่องที่น่าสนใจ และจุดเด่นอันหนึ่งที่เหมาะสมกับการฉายในภาพยนตร์จอใหญ่ ก็คือฉากแอ็กชั่นที่สนุกสนานไม่แพ้ภาพยนตร์อนิเมชั่นรุ่นพี่ที่ออกมาโลดแล่นให้คนดูก่อนหน้านี้ และทำให้เห็นว่าภาพยนตร์อนิเมชั่นยังมีที่ว่างให้กับคนฝีมือเช่นกัน

Minari

สำหรับท่านที่ตามข่าวภาพยนตร์สายรางวัล น่าจะได้ยินชื่อของ Minari more info มาตลอดปี ค.ศ.2020 นับตั้งแต่ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์ Sundance และคว้ารางวัล Grand Jury Prize และ The Viewers Award ในสายประกวด U.S. Extraordinary Levels of competition ก่อนจะไล่ไปกวาดรางวัลในเวทีอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง และมีสื่อบางท่านมองว่าเวทีออสการ์ก็จะถูกหนังเรื่องนี้รุกชิงพื้นที่เข้าชิงรางวัลต่างๆ เป็นแน่

ลี ไอแซก ชุง (Lee Isaac Chung) ที่ทำหน้าที่กำกับควบเขียนบท อิงเรื่องราวมาจากประสบการณ์ของตัวเอง แต่ในตัวภาพยนตร์จะเล่าเรื่องของ ครอบครัวชาวเกาหลีใต้เชื้อสายอเมริกา ที่ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในรัฐอาร์คันซอส์ของอเมริกาในช่วงยุค 1980 เรื่องราวถูกบอกเล่าผ่านลูกชายคนเล็กที่มองเห็นความพยายามของครอบครัวในการพยายามสร้างฐานะที่มั่นคง, ความสับสนของการเป็นคนเชื้อสายเอเชียในถิ่นคนผิวขาว แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเล่าความอบอุ่นที่เกิดจากความผูกผันของผู้คนอีกด้วย

ภาพยนตร์มีกำหนดฉายวงกว้างในอเมริกาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ.2021 ในประเทศไทย มีทาง Residence เกริ่นมาแล้วว่าจะได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันในปี ค.ศ.2021

Just one With the Street

นับตั้งแต่วันแรกที่มีข่าวว่าภาพยนตร์เรื่องต่อไปของ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับจากฉลาดเกมส์โกง จะได้ หว่องกาไว มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ หลายคนก็ให้ความสนใจแล้วว่าทิศทางของ One To the Street จะเป็นอย่างไร ยิ่งมีภาพของนักแสดงแบบ ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ ที่เปลี่ยนลุคเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย กับนักแสดงคนอื่นๆ ที่คุ้นชื่อและฝีมือทั้ง ต่อ ธนภพ, พลอย หอวัง, วี วิโอเลต, นุ่น ศิรพันธ์ และออกแบบ ชุติมณฑน์ ก็ทำให้หนังน่าสนใจพอสมควรแล้ว

ก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายละเอียดว่า ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจะเป็นหนังแนว Highway Excursion ที่เล่าเรื่องของ ‘บอส’ ชายหนุ่มที่ไปทำงานในบาร์ ที่กรุงนิวยอร์กได้รับการติดต่อจาก ‘อู๊ด’ เพื่อนเก่าที่กำลังจะเสียชีวิตจากโรคมะเร็งระยะสุดท้าย อู๊ดได้รบกวนให้บอสมาร่วมกันเดินทางเพื่อเอาของไปคืนให้เหล่าแฟนเก่า แต่การเดินทางครั้งดังกล่าวจะส่งผลอะไรกับเพื่อนทั้งสองคนบ้าง

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดจะไปฉายเปิดตัวรอบปฐมทัศน์โลกที่งานเทศกาลภาพยนตร์ Sundance ประจำปี ค.ศ.2021 และน่าจะได้ฉายในประเทศไทยในช่วงปลายปี ค.ศ.2021

Dune

ย้อนไปในช่วงปลายปี ค.ศ.2020 ทาง Warner Bros. ได้ประกาศข่าวว่าจะส่งหนังใหม่ๆ ของตัวเองลงไปฉายบนแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเลย ไม่ว่าจะเป็น Marvel Girl 1984, Godzilla VS Kong, Mortal Kombat ฉบับใหม่, The Conjuring: The Devil Created Me Do It, The Matrix four (ที่อาจจะเลื่อนฉาย) ฯลฯ

แต่หนึ่งในรายชื่อภาพยนตร์ที่เราคิดว่าน่าเสียดายสักหน่อยหากจะต้องรับชมบนจอเล็กนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Dune ฉบับปี ค.ศ.2020 ที่ได้ เดนิส วิลล์เนิฟ (Denis Villeneuve) กำกับและร่วมเขียนบท โดยการนำเอานิยายของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ท (Frank Herbert) มาสู่จอเงินในครั้งใหม่นี้ถูกระบุว่าจะซื่อสัตย์ต่อตัวต้นฉบับมากกว่าเดิม

และเมื่อย้อนระลึกไปว่างานก่อนหน้านี้ของ เดนิส ก็คือ Blade Runner 2049 ภาคต่อของภาพยนตร์ที่ ณ ช่วงที่สร้างนั้นมีแต่คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่พอภาพยนตร์ออกฉายจริง ก็ทำให้เห็นว่า ผู้กำกับชาวแคนาดาจะสามารถนำเสนอภาพลักษณ์ของโลกที่สอดคล้องกับภาพยนตร์ฉบับเก่าได้ดีอย่างไร

และด้วยตัวอย่างที่ปล่อยออกมาในปี ค.ศ.2020 ก็ทำให้เห็นว่า เดนิสไม่ได้มาเล่นๆ ภาพยนตร์ให้บรรยากาศเหมือนมาจากดวงดาวอันห่างไกล แต่ยังมีความยิ่งใหญ่สมเป็นสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ และความน่ากลัวของหนอนยักษ์ทะเลทรายก็ดูน่าสะพรึงไม่น้อย ภาพยนตร์ยังมีกำหนดเข้าฉายในบ้านเราช่วงเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2021 และมีการประกาศสร้างมีภาพยนตร์ภาคต่อกับฉบับซีรีส์ให้ติดตามกันแล้วด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *